วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อนุทินที่ 2



1. ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก และมีเหตุผลอย่างไร และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ             ผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก คือ คณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครอง
เป็นระบอบประชาธิปไตย
เหตุผล คือ เนื่องจากว่าราษฎรมีการศึกษาสูงขึ้นมีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชารัฐาภิปาลนโยบายสามารถนำประเทศของตน ในอันที่จะก้าวหน้าไปสู่สากลอารยธรรมแห่งโลกโดยสวัสดี สมควรให้ข้าราชการและประชาชนได้มีเสียงตามความเห็นดีเห็นชอบในการจรรโลงประเทศสยามให้วัฒนาการในภายภาคหน้า
ประเด็นเกี่ยวกับการศึกษา คือ สิทธิและหน้าที่ของชนชาวสยาม มาตรา 14 ภายในบังคับแห่งกฎหมายบุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การโฆษณา การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ

2. แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ของรัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช  2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
ตอบ                แนวนโยบายแห่งรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาดังนี้ คือ
1) มาตรา 62 กล่าวถึงจุดประสงค์ของการศึกษาเพื่อให้ชนชาวไทยเป็นพลเมืองดี มีร่างกายแข็งแรงและอนามัยสมบูรณ์ มีความรู้ความสามารถที่จะประกอบอาชีพ และมีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตย เน้นจุดประสงค์ของการศึกษา ความสำคัญของการศึกษา
2) มาตรา 63 กล่าวถึงหน้าที่ของรัฐที่จะต้องส่งเสริมและบำรุงการศึกษา การจัดระบบการศึกษาให้อยู่ภายในการควบคุมดูแลของรัฐ รัฐต้องจัดการให้สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาดำเนินกิจการของตนเองภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ  เน้นหน้าที่ของรัฐในการส่งเสริม จัดระบบการศึกษาให้อยู่กรอบของกฎหมาย
3) มาตรา 64 กล่าวถึง ไม่เก็บค่าเล่าเรียนสำหรับการจัดการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาทั้งของรัฐและของเทศบาล รัฐต้องช่วยเหลือให้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควร  เน้นในเรื่องของการเรียนฟรี สำหรับชั้นประถมศึกษา และรัฐต้องช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์การเรียน
4) มาตรา 65 รัฐต้องสนับสนุนการค้นคว้าในทางศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เน้นในเรื่องที่รัฐต้องสนับสนุนการศึกษาวิจัย

3. เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2511พุทธศักราช 2517 และ พุทธศักราช 2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ   เหมือนกัน ดังนี้
1) รัฐต้องส่งเสริม และการจัดระบบการศึกษาให้อยู่ในการดูแลของรัฐ และให้สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาดำเนินกิจการของตนเองภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
                   2)  การศึกษาระดับประถมศึกษา(ภาคบังคับ) ต้องไม่เก็บค่าเล่าเรียน
            3)  รัฐต้องให้การสนับสนุนการวิจัยทางด้านศิลปะและวิทยาการต่างๆเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศต่อไป

4. ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2549-2517 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบายตอบ  ต่างกัน 
ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาไม่มากนัก ได้กำหนดสิทธิและเสรีภาพ การพูด การเขียน การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ
ในขณะประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2492-2517 บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมีบทบาทมากขึ้นกับประเทศไทย นอกจากสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยในการศึกษาอบรมแล้ว ยังจัดการศึกษาเพื่อพลเมืองที่ดี มีร่างกายอนามัยสมบูรณ์ มีจิตใจเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งยังส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม จัดระบบการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐ และจัดการศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาของรัฐและเทศบาล โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนอีกด้วย


5. ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2540-2550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ              ต่างกัน คือ ประเด็นที่ 3 รัฐส่งเสริมและสนับสนุนทางการศึกษามากขึ้นแต่ในมุมมอง
ที่กว้างยังไม่เข้าถึงประชาชนมาก เพียงแค่ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ที่ได้รับการศึกษา บางคนอาจจะยังไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง ส่วนประเด็นที่ 4 รัฐส่งเสริมและบำรุงการศึกษามากขึ้น รัฐมีบทบาทมากขึ้นและเข้าถึงประชาชนได้ลึกด้วยการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น


6. เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง อธิบาย
ตอบ              สาเหตุที่รัฐธรรมนูญต้องระบุในประเด็นการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงก็เพราะ
รัฐธรรมนูญต้องการให้การศึกษาของไทยเป็นไปอย่างมีระบบ และต้องการให้มีการศึกษาที่สอดคล้องกันและมีการบังคับการศึกษาที่แน่นอนเพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับผิดชอบในด้านต่างๆเกี่ยวกับการศึกษา นี่คือประเด็นที่รัฐธรรมนูญต้องจัดประเด็นการศึกษาอย่างเป็นทางการและมีทุกพุทธศักราชที่พูดเกี่ยวกับการศึกษา


7. เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด “บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติจงอธิบาย หากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ              แนวคิดเกี่ยวกับการบัญญัติรับรองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนในรัฐธรรมนูญ
นั้นได้มีการบัญญัติรับรองคุ้มครอง สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชนไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับและได้มีวิวัฒนาการผันแปรไปตามยุคสมัยของรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ โดยในช่วงแรกๆนั้น ส่วนใหญ่สิทธิ เสรีภาพและ ความเสมอภาคนั้นส่วนใหญ่เป็นสิทธิ เสรีภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและมีการบัญญัติถึงสิทธิเสรีภาพต่างๆของประชาชนไว้รวมๆในมาตราเดียว ในรัฐธรรมนูญฉบับต่อๆมาได้มีความพยายามที่จะขยายสิทธิขั้นพื้นฐานเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสิทธิในการศึกษาซึ่งถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้วย นอกจากนั้นยังมีข้อที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ในการบัญญัติรับรองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนนั้นยังเป็นการบัญญัติโดยมีเงื่อนไข ซึ่งมักจะพบได้จากคำที่ว่า ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ”  หรือ ทั้งนี้ภายใต้บังคับแห่งบทกฎหมายหรือ ภายในเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติเป็นต้น หมายความว่า    รายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เงื่อนไขหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น จะต้องมีกฎหมายออกมาเพื่อกำหนดรายละเอียดดังกล่าว จึงจะสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพหรือปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวให้ครบถ้วนถูกต้อง หรือต้องมีกฎหมายกำหนดข้อห้ามเสียก่อน จึงจะถือว่ามีการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้น  ซึ่งเมื่อประชาชนจะบังคับใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าวฝ่ายบริหารก็มักจะอ้างว่าเมื่อยังไม่มีกฎหมายบัญญัติเงื่อนไขและวิธีการออกมาใช้บังคับประชาชนก็ยังไม่สามารถบังคับให้เป็นไปตามสิทธิดังกล่าวได้ ต่อมาได้เมื่อประชาชนมีความรู้และมีความตื่นตัวในเรื่องสิทธิ เสรีภาพมากขึ้นประกอบกับได้รับอิทธิพลจากรัฐธรรมนูญต่างประเทศและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติส่งผลให้มีการขยายการรับรองคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้น

8. การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหากเราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วม และถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ                รัฐธรรมนูญฉบับ พุทธศักราช 2550 ที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการ
จัดการศึกษา และการที่เปิดโอกาสให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษานั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด  และทำให้การศึกษาครอบคลุมมากยิ่งขึ้นมีการกระจายอำนาจและความทั่วถึงของการศึกษาในทุกระดับของประเทศ และ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะเข้าใจสภาพปัญหาและเข้าถึงประชาชนในท้องถิ่นได้ง่ายกว่าและมากกว่า

9. เหตุใดการจัดการศึกษา รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย พัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว และความเข็มแข็งของชุมชน สังเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส จงอธิบาย
ตอบ              สำหรับสาเหตุที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาให้คุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน
ส่งเสริมการศึกษาให้เท่าเทียบกันก็เพราะว่า  หลักความเสมอภาคถือเป็นหลักพื้นฐานประการหนึ่งในการรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งมนุษย์ย่อมได้รับการรับรองและคุ้มครองจากกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ในฐานะที่เป็นมนุษย์ โดยมิต้องคำนึงถึงคุณสมบัติอื่น เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ฐานะ ถิ่นกำเนิด เป็นต้น หลักความเสมอภาคเป็นหลักประกันความเสมอภาคของพลเมืองทุกคนตามกฎหมาย เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นหลักประกันมิให้รัฐใช้อำนาจตามอำเภอใจ
ความเสมอภาคนี้เป็นหลักที่ผูกพันทั้งทางนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ โดยให้สิทธิแก่บุคคลที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่เลือกปฏิบัติ โดยการปฏิบัติตามหลักความเสมอภาคนั้นจะต้องปฏิบัติต่อสิ่งที่มีสาระสำคัญเหมือนกันอย่างเท่าเทียมกัน และจะต้องปฏิบัติต่อสิ่งที่มีสาระสำคัญแตกต่างกันให้แตกต่างกันไปตามลักษณะของเรื่องนั้น ๆ ความเสมอภาคทำให้การใช้สิทธิเสรีภาพเป็นไปอย่างทั่วถึง ถ้าสิทธิเสรีภาพเป็นสิทธิเสรีภาพที่คนบางกลุ่มบางคนเข้าถึงได้ ในขณะที่คนบางกลุ่มเข้าถึงไม่ได้ ในกรณีดังกล่าวก็ไม่ถือว่ามีสิทธิ เสรีภาพแต่อย่างใด
และประเด็นที่สำหรับที่รัฐต้องทำเพราะรัฐต้องการให้การศึกษาของไทยและคนไทยมีความรู้ ความสามัคคีกันในทุกๆระดับการศึกษา  และรัฐต้องสงเคราะห์คนชรา ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาสให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึงตนเองได้
  
10. ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ              นับตั้งแต่ได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นและมีการปรับปรุงแก้ไขใน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เสรีภาพ การศึกษาอบรม ให้กับเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้มีความสมบรูณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม โดยมีแนวทางในการจัดการศึกษา รัฐจะต้องจัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมเช่นกัน และจัดการศึกษาภาคบังคับให้เข้ารับการศึกษาอบรมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย สำหรับการศึกษาภาคบังคับ ต่อมาได้เพิ่มเติมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี รัฐจะต้องจัดอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ พร้อมทั้งจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ หรือเรียกชื่อว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติขึ้น

การจัดการศึกษาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลต่อการพัฒนาประเทศคือ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบโดยให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงประชามติเห็นชอบในรัฐธรรมนูญ มีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ ประชาชนได้รับการศึกษาโดยทัดเทียมกับบุคคลอื่น ทำให้ประชาชนมีความรู้ความสามารถมากขึ้น ปิดช่องว่างความแต่ต่างระหว่างบุคคล 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น